ReadyPlanet.com
dot
dot
dot
bulletเจริญสติแนวหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
bulletแผนที่และการเดินทาง
bulletเว็บไซด์ที่เกี่ยวข้อง
dot
dot
bulletบทสวดมนต์
bulletหนังสือ
bulletวิดิทัศน์หลวงพ่อเทียน
bulletจดหมายหลวงพ่อเทียน
bulletคำสอนหลวงพ่อเทียน
bulletปัจฉิมโอวาทหลวงพ่อเทียน
bulletเสียงธรรมหลวงพ่อทอง อาภากโร
bulletคำสอนหลวงพ่อทอง
dot
dot
bulletประเพณีทอดกฐิน
bulletตารางปฏิบัติธรรม
bulletกิจกรรม
bulletข่าวสาร
bulletงานเผยแผ่ในต่างประเทศ โดยหลวงพ่อทอง
dot
dot
bulletถาม-ตอบ
dot

dot



สาธิตการยกมือสร้างจังหวะ
โดยหลวงพ่อทอง อาภากโร


หลวงพ่อทอง อาภากโร
งานตามรอยหลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ
ณ วัดสนามใน จ.นนทบุรี
วันที่ 13-15 ก.ย. 2547




สาธิตการสร้างจังหวะ
โดยหลวงพ่อทองฯ



วัดสนามใน

 

  

ย้อนอดีตบรรยากาศวัดสนามใน

(๒๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๔๘)

วัดสนามใน เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรมตามแนวทางของ หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ที่ให้ความสำคัญกับการเจริญสติด้วยการรู้สึกตัวเคลื่อนไหว หรือที่เรียกว่า การเจริญสติแบบยกมือเคลื่อนไหว โดยมุ่งเน้นให้ผู้ปฏิบัติธรรมได้ฝึกเจริญสติโดยการสังเกตหรือเฝ้าดูธรรมชาติรอบตัว สภาพแวดล้อมภายในวัดจึงเต็มไปด้วยต้นไม้และหนองน้ำที่มีอยู่ตามธรรมชาติ 

พื้นที่วัดมีเนื้อที่กว้าง ๘๐ เมตร ลึก ๑๘๐ เมตร ตั้งอยู่ติดกับทางรถไฟ แบ่งออกเป็น ๓ เขต คือ ๑) เขตพระสงฆ์ด้านหลัง มีทางเดินจงกรมบนผิวถนนที่ตัดไว้เป็นรูปแปลงนา มีกุฏิสงฆ์ปลูกอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นสูงกว่า ๑๐ เมตร ส่วนที่ ๒) เขตอุบาสกและพระสงฆ์ด้านหน้า มีทางเดินจงกรมบนผิวถนนที่ตัดไว้ พร้อมศาลาเอนกประสงค์ ศาลาปฏิบัติธรรมกลางแจ้ง ห้องสมุด และศาลารวมใจ และ ๓) เขตอุบาสิกา ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของวัด เป็นเขตเรือนพักสำหรับอุบาสิกา ญาติโยม และผู้มาปฏิบัติธรรม โดยมีลานเดินจงกรมถมทรายหยาบ ภายใต้ร่มเงาของต้นไม้สูง 

 

อดีตความเป็นมาของวัดสนามในไม่ปรากฏที่มาว่าใครเป็นผู้สร้างและสร้างเมื่อใด มีสภาพเป็นเพียงวัดรกร้างที่ไม่มีพระสงฆ์หรือเณรจำพรรษามาเป็นเวลานาน กระทั่งปี ๒๕๑๙ วิโรจน์ ศิริอัฐิ และพระมหาสุขสันต์ ได้เข้ามาแนะนำวัดนี้แก่หลวงพ่อเทียน จิตฺตสุโภ ซึ่งในขณะนั้นได้จำพรรษาอยู่ที่วัดชลประทานรังสฤษฎ์ และกำลังหาสถานที่ที่เหมาะสำหรับการปฏิบัติกรรมฐานแก่ญาติโยม โดยไม่เน้นรูปลักษณ์วัตถุก่อสร้างดังเช่นวัดอื่นๆ และเมื่อหลวงพ่อเทียนเข้ามาดูก็พบว่าวัดมีเพียงร่องรอยของโบสถ์เก่า เจดีย์เก่า ซากอิฐกระจัดกระจายอยู่พอให้เห็นว่าเคยเป็นวัดมาก่อน มีที่ดินเหลืออยู่เฉพาะบริเวณโบสถ์และเจดีย์ นอกนั้นได้ถูกชาวบ้านยึดไปทำกิน หลวงพ่อเทียนพอใจในสถานที่จึงตัดสินใจบูรณะวัดให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง 

 

   

คำบอกเล่าถึงวัดสนามในเมื่อในอดีต... 

  (โดยชมรมต่อเทียน)

                      

ลุงเล็ก ๗๔ ปี (โภคะ ภิญโญยิ่ง) 

"สมัยก่อนนั้นกุฏิสร้างคร่อมคูน้ำ เพราะมันเป็นที่ท้องร่องสวนข่อย สวนมังคุด กุฏิฝึกเป็นหลังคามุงจาก นั่งฝึกนี่ได้กลิ่นไอน้ำจากร่องน้ำ ยังไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ต้องจุดเทียนและรองน้ำฝนไว้ใช้กัน ทางออกจากวัดมีทางเดียว คือทางหมู่บ้านสมชาย ถ้าฝนตกน้ำจะท่วมเสมอ พระต้องเดินลุยน้ำบิณฑบาตกัน 

คำว่าสนามใน มาจากสนามรบ คือมันเป็นที่นักเลงตีกัน ท้าตีท้าต่อยกันที่นี่ ฆ่ากันตายแล้วเอาศพมาโยนให้รถไฟทับอำพรางคดี เมื่อก่อนนี้ไม่มีการแยกกุฎิหญิง-ชาย ตอนกลางคืนหลวงพ่อเทียนท่านจะไม่นอน แต่คอยเดินเวรยาม ดูความปลอดภัยให้ญาติโยมซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง เพราะมันเป็นที่เปลี่ยวและอันตราย พอมีไฟฟ้าเข้ามาถึงวัด คนก็เริ่มหลั่งไหลเข้าวัดมากขึ้นเรื่อยๆ

ตอนที่มาสร้างวัด หลวงพ่อเทียนท่านมีชื่อเสียงแล้ว ตอนท่านบิณฑบาตแรกๆ คนแถวนี้ไม่มีคนรู้จัก คนเริ่มสนใจ เพราะท่านสอนไม่เหมือนพระอื่น ที่มักเน้นด้านอภิญญาในสมัยนั้น ท่านไม่ให้นั่งหลับตา ให้ยกมือทำความรู้สึกตัว ตอนนั้นมีพระจำวัดประมาณ ๕ รูป หลวงพ่อท่านจะไม่ฉันก่อนโยม ให้โยมฉันก่อน แล้วท่านจะเทศน์สอนโยมในระหว่างนั้น พออบรมธรรมเสร็จท่านจึงฉันทีหลัง เมื่อก่อนฝึกกันหนักมาก พอฉันเสร็จปุ๊บฝึกเลย ท่านไม่สอนเรื่องอื่นเลยนอกจากให้รู้สึกตัว

พระแบบนี้หาไม่ได้อีกแล้ว ท่านสอนเข้าใจง่าย มีเมตตา ชอบให้ปฏิบัติ คนที่คิดจะฆ่าตัวตายมาหาท่านจะเลิกคิดเลย ท่านพูดกินใจเข้าไปข้างใน คนที่ได้เคยสนทนากับท่านมักจะไปบอกต่อคนอื่น จึงเพิ่มคนเข้าวัดขึ้นเรื่อยๆ และท่านไม่ใช่ลักษณะของพระบอกบุญเรี่ยไรเงิน ถ้ามาช่วยงานวัด หมายถึงมาด้วยใจ ทำกันฟรีๆ" 

                    

ป้าพัน ๗๖ ปี (สุทธิพรรณ ทองอยู่)  

"ป้าเริ่มเข้าวัดตอนเจริญแล้ว เมื่อก่อนศาลาใหญ่ปฏิบัติธรรมเป็นชั้นเดียวใต้ถุนโล่ง หอฉันเป็นเรือนไม้ แต่ก่อนไม่มีแท่นตักอาหารแบบทุกวันนี้นะ เอาอาหารใส่ถาดกระบะเป็นล้อแล้วเข็นเอา พระก็เลือกแกงเป็นถุงๆ ไม่ได้มาจัดเรียงแกงใส่เป็นชามๆ อย่างสมัยนี้ การก่อสร้างสมัยก่อนก็ลำบากนะ เพราะว่าต้องจอดรถไว้อีกด้านของทางรถไฟ แล้วแบกวัสดุก่อสร้างข้ามทางรถไฟกันมา แต่โดยรวมแล้ววัดตอนนี้ก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก จากตอนที่ป้าเข้ามาใหม่ๆ ตอนปี ๒๕๒๕ นะ

หลวงพ่อเทียนท่านไม่พูดคุยเล่น ไม่สุงสิงตีสนิท แต่ท่านใจดี ตอนป้าเข้ามาใหม่ๆ พาโยมพ่อมาด้วยอายุรุ่นเดียวกับหลวงพ่อเทียน โยมพ่อประทับใจหลวงพ่อเทียนมาก บอกว่าพระรูปนี้เชื่อถือได้เลย เมื่อก่อนคนเข้าวัดเยอะกว่าสมัยนี้นะ คนระดับใหญ่ๆ โตๆ แวะเวียนมากันหลายคน

หลวงพ่อเทียนท่านสอนทุกคน ใครอยากฝึกก็มา วิธีการของท่านทำให้เราวางใจได้ ทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างไม่ค่อยมีความสำคัญ ความทุกข์มันมากับความคิด พอป้ามีปัญหาป้าก็จะยกมือ มันแก้ได้ เราจะไม่อยู่ในความคิด นี่คือที่ได้เรียนรู้จากหลวงพ่อเทียน ท่านไม่รับบริจาค ไม่มีเรี่ยไร ไม่มีมาพูดถึงการสร้างโน่นสร้างนี่ใหญ่โตสิ้นเปลือง หรูหราฟุ่มเฟือยไม่มี พัดลมก็ไม่มี คนมาฝึกสมัยนั้นเค้าก็อยู่กันได้นะ มีเท่าไหร่ก็อยู่กันไป ท่านกินง่ายอยู่ง่าย ท่านไม่ค่อยรับกิจนิมนต์ สวดมนต์ไม่ค่อยเน้น เดินจงกรม นั่งสร้างจังหวะ ฝึกปฏิบัติให้มากๆ อย่างเดียว สอนบ่อยๆ ว่าคิดให้รู้ ให้รู้จักเตือนตัวเอง ดูตัวเอง

เรานึกถึงบุญคุณวัด นึกถึงบุญคุณหลวงพ่อเทียน ทำให้อยากมาวัด โชคดีบ้านป้าอยู่ใกล้วัดสนามใน ฝนตกฟ้าร้องก็มา มันได้ประโยชน์จริงๆ"

  

             

ระโสภณ ฉนฺทธมฺโม ๔๖ ปี (พรรษา ๒๓) 

"หลวงพ่อเทียนท่านไปสอนธรรมะที่สวนธรรมะสากล หาดใหญ่ ตอนปี ๒๕๒๕ อาตมาทราบว่าท่านพำนักอยู่ที่วัดสนามในจึงตามมาฝึก อาตมามาถึงวัดสนามในอยู่ได้ ๔ เดือนในครั้งแรก ประทับใจในความสงบเงียบ มีกุฏิเรียบๆ ง่ายๆ หลังเล็กๆ ตอนนั้นแยกชายหญิงแล้ว สมัยก่อนไม่มีตารางเวลาฝึก ว่างก็ฝึกกันเลยทั้งโยมทั้งพระเหมือนกัน ฝึกกันหนัก ทุกคนรู้หน้าที่ตัวเอง หลวงพ่อเทียนท่านอยู่เป็นเพื่อนคอยพูด คอยดูแล คอยให้กำลังใจ เราก็มีกำลังใจฝึก หลวงพ่อเทียนท่านพูดน้อยมากเลย พูดเท่าที่จำเป็น ท่านให้เราปฏิบัติเอาเอง ท่านเน้นฝึกไม่เน้นกิจนิมนต์

ตอนที่พบหลวงพ่อเทียนครั้งแรก อาตมายังเป็นโยม ฟังธรรมะไม่รู้เรื่อง ยังไม่เห็นประโยชน์ เรียกว่าธรรมะนี่ไม่สนใจ ต่อมาได้บวชตามประเพณี อาตมาบวชในเมือง จริงๆ แล้วตอนนั้นอาตมาไม่รู้นะว่า ชีวิตอาตมาควรเดินไปทางไหน สับสนตัวเอง พอบวชแล้วใจก็ชอบธรรมะนะ แต่มันก็ชอบชีวิตแบบคนทั่วไปด้วย พอเป็นพระก็เริ่มเครียด เพราะตัดสินใจไม่ได้ว่าจะสึกหรือไม่สึกดี จึงเริ่มศึกษาธรรมอย่างจริงจัง เพื่อหวังว่าจะหาทางออกให้กับชีวิตตัวเอง

เท่าที่อาตมาจำได้สมัยก่อนนั้นวัดสนามในยังไม่มีพื้นที่ตรงบริเวณฝั่งอุบาสกนะ เพราะชาวบ้านเค้าบุกรุกสถานที่อยู่ก่อนที่หลวงพ่อเทียนท่านจะมาบูรณะเป็นวัด ต่อมาหลวงพ่อเทียนมรณภาพ จึงมีการทำเรื่องขอคืนพื้นที่ให้แก่วัด"

------------------------------------------------




วัดสนามใน

V-๐๑๒ สัจธรรมหลวงพ่อเทียน
หลวงพ่อเทียนสอบอารมณ์
ธรรมหลวงพ่อทอง
หลวงพ่อทองสาธิตเจริญสติสร้างจังหวะ ยืน เดิน นั่ง นอน



Copyright © 2010 All Rights Reserved.
วัดสนามใน
ที่อยู่ ๒๗ หมู่ ๔ ต.วัดชลอ อ.บางกรวย นนทบุรี ๑๑๑๓๐
โทร. ๐๘ ๗๕๗๕ ๖๒๗๕, ๐ ๒๐๐๙ ๔๘๕๓
อีเมล info.watsanamnai@gmail.com
เว็ปไซด์ www.watsanamnai.org
www.facebook.com/Sanamnai